ทำไมจึงมีความเชื่อในเรื่องการพกแบงก์ 1 ดอลลล่าร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาติดตัวไว้ จะนำความร่ำรวยและโชคดีเข้าสู่คนที่พก

ความล้บ 1 ดอลล่าร์

ความเชื่อนี้อันดับแรกมาจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเกิดใหม่ มีการก่อตั้งมาประมาณ 200 กว่าปี ซึ่งถือว่าไม่นานมากไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ ที่มักมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยโบราณและมีการก่อตั้งดินแดนมานานนับพันปี แต่ประเทศสหรัฐอเมริกากลับเป็นประเทศที่มีความยิ่งใหญ่ มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นประเทศมหาอำนาจและเป็นผู้นำของประเทศต่าง ๆ ในโลก นอกจากนี้ เงินสกุลดอลล่าร์ยังถือเป็นเงินสกุลหลักของโลกอีกด้วย

มีการสังเกตกันว่าแบงก์ 1 ดอลล่าร์เปรียบเสมือนยันต์เรียกเงิน

เรียกโชคลาภได้ เนื่องจากมีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ดี และมีความหมายอยู่บนหลังธนบัตร 1 ดอลลาร์ ซึ่งแม้แต่เศรษฐีทั่วโลกยังพกไว้ติดตัวหรือวางปึกเงิน 1 ดอลล่าร์ไว้ในที่เก็บเงิน เช่น ในลิ้นชัก ในกระเป๋าสตางค์ โต๊ะทำงาน ในตู้เซฟหรือเสียบไว้ในสมุดบัญชีเพื่อให้มีเงินไหลเข้ามามาก ๆ สัญลักษณ์ที่สำคัญบนด้านหลังธนบัตร ได้แก่ รูปปีระมิดและรูปดวงตาที่อยู่ด้านบนของพีระมิด ดวงตาที่อยู่ด้านบนเปรียบเสมือนการมองเห็นทุกอย่าง การมองการณ์ไกลและการมองได้อย่างทั่วถึงทำให้ทำสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อเรามองเห็นอย่างชัดเจนและมองเห็นทุกอย่าง เหมือนสุภาษิตจีนที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ดังนั้น เงินดอลล่าร์ในตัวมันเองจึงสามารถใช้ได้ทุกหนทุกแห่งและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และผู้ที่พกติดตัวทำสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมีการมองเห็นที่แจ่มชัด

สัญลักษณ์อีกอันหนึ่งที่สำคัญ คือ รูปพีระมิด รูปทรงปีระมิดมีความเชื่อกันว่า เป็นรูปทรงที่มีพลังลี้ลับอยู่ภายใน ประเทศต่าง ๆ ที่มีความเชื่อในเรื่องศาสตร์และฮวงจุ้ย มีการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีรูปทรงคล้ายพีระมิดเพื่อดึงดูดโชคลาภ และป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ อีกทั้งยังมีความเชื่อในเรื่องปฏิกิริยาของมนุษย์ เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของพีระมิด ทำให้มีพลังทางบวก มีระบบไหลเวียนโลหิตดีและนอนหลับสนิท หากมีอาการวิงเวียนหรือคลื่นไส้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากร่างกายต้องการขับสารพิษหรือสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย เป็นต้น

ดังนั้น สัญลักษณ์รูปทรงพีระมิดในแบงก์ 1 ดอลล่าร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมีความหมายที่ดีเมื่อนำมารวมกับดวงตาด้านบนและตัวอักษรทั้งด้านบน และด้านล่างเปรียบเสมือนเป็นยันต์นำโชคลาภ อำนาจและเงินทองเข้ามาและปกป้อง ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป นอกจากนี้รูปพีระมิดที่เห็นในธนบัตรดูเหมือนสร้างยังไม่เสร็จ เปรียบเหมือนประเทศสหรัฐอเมริกายังสร้างไม่เสร็จเพื่อให้ยังคงเจริญเติบโตได้ต่อไปและยิ่งใหญ่ต่อไปได้อีกนาน สำหรับตัวอักษรที่อยู่ด้านบน และด้านล่างเป็นวลีภาษาลาติน ด้านบนเหนือพีระมิดคือคำว่า Annuit Coeptis มีความหมายว่า พระเป็นเจ้าทรงเห็นชอบกับการกระทำของพวกเรา ส่วนด้านล่างมีตัวอักษรภาษาลาตินคำว่า Novus Ordo Seclorum มีความหมายถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการปกครองโลก

นอกจากสัญลักษณ์ทางข้างซ้ายด้านหลังแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ทางขวาที่สำคัญและมีความหมาย สัญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดเป็นอันดับแรกคือ นกอินทรีย์คาบผืนผ้าที่มีตัวอักษรคำว่า E Pluribus Unum ซึ่งมีความหมายว่า จากความหลากหลายมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว น่าจะหมายถึงชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่รวมกันอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้านบนของหัวนกอินทรีย์มีดาวทั้งหมด 13 ดวง ซึ่งใช้แทน 13 จักรวรรดิในอดีต ซึ่งจริง ๆ แล้วประเทศทางแถบยุโรปถือว่าเลข 13 หรือจำนวน 13 เป็นสัญลักษณ์ของเวทมนตร์ปีศาจ แต่กลับพบว่ามีการใช้จำนวน 13 ในแบงก์ 1 ดอลล่าร์หลายจุด ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความบังเอิญต้องมาจากความตั้งใจที่จะใช้จำนวนตัวเลขนี้


จุดที่สังเกตเห็นจำนวน 13 บนธนบัตร ได้แก่ ดาวทั้ง 13 ดวง ใบมะกอก 13 ใบบนกิ่งมะกอกที่อยู่ตรงเท้าด้านซ้ายของนกอินทรีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ลูกธนู 13 ดอกที่เท้าด้านขวาของนกอินทรีย์เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องประเทศ ไม่ให้ใครมารุกราน โล่ป้องกันหน้าอกอยู่ด้านหน้าของนกอินทรีย์มีแถบทั้งหมด 13 แถบ เป็นโล่ป้องกันตัวนกอินทรีย์ที่อยู่ด้านหน้า เป็นสัญลักษณ์ของเครื่องป้องกันประเทศและภัยอันตรายต่าง ๆ แต่โล่ไม่ได้ค้ำตัวนกอินทรีย์ไว้เพื่อให้ประเทศอเมริกาสามารถอยู่ได้อย่างเป็นเอกเทศ โดยไม่ต้องพึ่งพาใครนอกจากนี้ยังมีผลเบอร์รี่ 13 ผลบนกิ่งมะกอก ตัวอักษร 13 ตัวในวลีภาษาลาตินและปีระมิดที่มีหินเรียงกันทั้งหมด 13 ชั้น เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากความตั้งใจในการออกแบบ และนำไปใส่ลงในธนบัตร เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ที่ดี มีความหมายที่ดี และเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ ดังนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความเชื่อในการพกแบงก์ 1 ดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา จะนำพาโชคลาภ เงินทองและความสำเร็จมาสู่ผู้ที่พกติดตัว

โปรดใช้วิจารณญาณ บนความเชื่อแต่ละบุคคล

พี่อ้วนสายมู