ห่างจากวัดหนัง กรุงเทพ ไม่ถึง 1 กม. ก็ถึงวัดนางนองแล้ว เป็นวัดที่ถ้าสวดมหาจักรพรรดิ์อยู่แล้ว วัดนางนองนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งกับ พระพุทธมหาจักรพรรดิ์ องค์ใหญ่ในอุโบสถ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการบูรณะ และ ได้กราบไหว้ พระอุปคุตที่อยู่นอกอุโบสถ ซึ่งบอกได้เลยว่าสุดยอดมาก
วัดนางนอง บางขุนเทียน กรุงเทพ
จอดมอไซค์เรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปกราบไหว้พระอุปคุตด้านนอกอุโบสถได้เลย ซึ่ง วันนี้วัดอยู่ระหว่างการก่อสร้างปรับปรุงเพิ่มเติม สงบเงียบมาก
![วัดนางนอง](https://trip.idea2mobile.com/wp-content/uploads/2022/01/1-9-1024x683.jpg)
พระอุปคุต ขอพรเรื่องเงินทองโชคลาภ
![วัดนางนอง](https://trip.idea2mobile.com/wp-content/uploads/2022/01/2-10-1024x683.jpg)
ด้านนอกเป็นที่จุดธูปเพื่อสวดพระมหาจักรพรรดิ์ จัดการขอพรตรงนี้เลยครับ
![วัดนางนอง](https://trip.idea2mobile.com/wp-content/uploads/2022/01/3-9-1024x683.jpg)
เราเดินไปในอุโบสถด้านในต่อได้เลย จะมีป้ายบอกทาง และ ทางเข้าอุโบสถ
ทางขึ้นสวยงามด้วยไม้ เป็นสะพานเลย
![วัดนางนอง](https://trip.idea2mobile.com/wp-content/uploads/2022/01/4-9-1024x683.jpg)
วัดนางนอง พระพุทธมหาจักรพรรดิ์
ขอพรความสำเร็จ ให้ท่านเมตตา ด้วยความตั้งใจที่อยากจะเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ตามความสามารถของตัวเองที่เก่ง และ เป็นอยู่แล้วให้สำเร็จที่ขอ ขอให้สมหวัง สาธุ
ประวัติความเป็นมา
![พระมหาจักรพรรดิ์ วัดนางนอง](https://trip.idea2mobile.com/wp-content/uploads/2022/01/5-8-1024x683.jpg)
วัดนางนองวรวิหาร งามเลิศในปฐพีพระพุทธรูปองค์นี้กล่าวกันว่าสวยงามเป็นเลิศ เมื่อเทียบกับอีก 2 องค์ที่เป็นพระประธานวัดปทุมคงคา ย่านเซียงกง และพระประธานในพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยาวัดที่ขึ้นชื่อลือนามในความสวยงามย่านฝั่งธนฯ วัดหนึ่ง คือวัดนางนองวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมการก่อสร้างอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 3 โดดเด่นเห็นชัดเจน ด้านนอก และรอบๆ จะเห็นพระอุโบสถ และวิหาร เป็นต้น ที่มีการก่อสร้างไทยผสมจีน ส่วนภายในพระอุโบสถจะพบพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระพุทธรูปทรงเครื่อง 1 ใน 3 องค์ที่มีในประเทศไทย ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถมาตั้งแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เช่นกันพระพุทธรูปองค์นี้กล่าวกันว่าสวยงามเป็นเลิศ เมื่อเทียบกับอีก 2 องค์ที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดปทุมคงคา ย่านเซียงกง เขตสัมพันธวงศ์ และพระประธานในพระอุโบสถวัดหน้าพระเมรุวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระเทพสิทธิเวที (สำราญ) เจ้าอาวาสวัดนางนองรูปปัจจุบัน ก็ยืนยันถึงความเป็นเลิศดังกล่าว
เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จะเห็นได้จากที่ตั้งวัด วัสดุการก่อสร้างวัด ปูชนียวัตถุ ล้วนแต่มีการก่อสร้างอย่างประณีตบรรจงเช่น พระอุโบสถ พระวิหาร พระปรางค์ พระเจดีย์ ตลอดจนพระประธานทรงเครื่องในพระอุโบสถ วัดนางนองนี้ เดิมอยู่ริมคลองด่าน การสัญจรไปมาใช้เส้นทางคลองด่านเป็นหลัก หน้าวัดจึงได้หันสู่คลอง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกมิได้หันไปทางทิศตะวันออก แต่ต่อมาเมื่อมีการตัดถนน การสัญจรทางน้ำลดความสำคัญลง สภาพของก็เปลี่ยนไป ทางเข้าวัดได้เปลี่ยนมาเป็นทางด้านถนนวุฒากาศการก่อสร้างวัดนี้ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มสร้างในสมัยใด สันนิษฐานจากรูปแบบของศิลปะที่พบในวัด ควรจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และได้บูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2375 ได้โปรดเกล้าฯ ให้รื้อของเก่าแล้วปฏิสังขรณ์ใหม่ทั่วทั้งพระอาราม ดังจะเห็นได้จากพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ ศาลาหน้าวัดล้วนเป็นทรงเก๋งจีน พร้อมทั้งศิลปกรรมที่ปั้นลม หน้าบัน ประตู หน้าต่าง พระประธานในพระอุโบสถพร้อมทั้งลายฝาผนังลายรดน้ำ รูปทรงศิลปะไทยจีนประยุกต์ รัชกาลที่ 3 ทรงบูรณะวัดนางนองนี้ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่ชื่อว่า บางนางนองซึ่งเป็นนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระศรีสุลาลัย หรือเจ้าจอมมรดาเรียม พระราชชนนีของท่าน ก่อนที่ตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัยจะข้ายข้ามคลองไปตั้งถิ่นฐานบริวณวัดหนัง ใช้เวลาปฏิสังขรณ์หลายปีจึงแล้วเสร็จได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวงพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถในวันที่ 19 พ.ย. 2385 วัดนางนองนี้เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่วัดหนึ่งหันไปทางทิศตะวันตกตามทางสัญจร คือคลอด่านสิ่งปลูกสร้างแบ่งเป็นเขตพุทธาวาส และสังฆาวาส เขตพุทธวาสมีถาวรวัตถุ พระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ทรงปรางค์ เจดีย์ทรงเครื่องโดยมีแผนผังตามแนวแกนหลักคือ พระอุโบสถเป็นประธานของวัด อยู่ด้านหลังสุด หน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ทรงเครื่องขนาดใหญ่ ด้านซ้ายและขวาของเจดีย์มีวิการคู่ ส่วนของวิหาร ทั้งสองหลังยังมีเจดีย์ทรงปรางค์ตั้งอยู่ด้านหลังและมีกำแพงแก้วร้อมรอบ ลักษณะของผังแบบนี้ ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของงานสร้างวัดในสมัยรัชกาลที่ 3
พระปรานในพระอุโบสถ คือ พระพุทธรูปสำริดปิดทอง เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัยพระนาม “พระพุทธมหาจักรพรรดิ” พระพักตร์พุทธศิลป์อย่างสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร 25 เซนติเมตร เครื่องทรงที่ประดับทุกชิ้นแยกออกจากองค์พระ สวมทับลงไว้ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีปั้นลายปิดทองประดับกระจก เป็นงานประติกมากรรมชิ้นเยี่ยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีความงามวิจิตรอลังการปลูกความเลื่อมใสศัทธาแก่ผู้เข้ามาสักการะ มีประวัติสำคัญคือได้มีการนำมงกุฎของพระพุทธรูปที่วัดนางนองไปประดิษฐานยังยอดของตรีศูลพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามภายหลังจึงมีการสร้างถวายคืนให้ในรัชกาลของพระองค์
งานจิตรกรรมภายในพระอุโบสถมีหลายเรื่องอันประกอบด้วยที่ผนังพระอุโบสถส่วนบนเหนือกรอบหน้าต่างทุกด้าน เขียนเรื่อง ชมพูบดีศูตร เป็นงานเขียนสีลงบนฝาผนัง ระหว่างหน้าต่างเป็นงานเขียนบนรักอย่างจีนที่เรียกว่าลายกำมะลอ เรื่องสามก๊ก ระหว่างบานประตูเป็นภาพสำคัญคือ ฮก ลก ซิ่ว พร้อมทั้งเครื่องมงคล ตามรัชกาลที่ 3 ที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง ในกรอบกระจำเป็นนิยายจีน จิตรกรรมประดับบานประตู หน้าต่าง และบานแผละ เป็นลายรดน้ำที่บานประตูเขียนเรื่องรามเกียรติ์ บานหน้าต่างเขียนภาพเทพในศาสนาฮินดูที่นำมาใช้เป็นงานประดับและทวารบาลอย่างไทย บานแผละเขียนเป็นภาพมงคลที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ได้แก่ เครื่องราชกุธภัณฑ์ คือ พระมหามงกุฎ ธารพระกร พระแสงขรรค์ชัยศรี พัดวาลวีชนี พระแส้ และฉลองพระบาทเครื่องสูง ภาพเขียนภายในพระอุโบสถลบเลือนมากวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นพุทธประวัติตอนชมพูบดีสูตร คือตอนพระพุทธเจ้าทรมาณพระยามหาชมพูเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างานจิตรกรรมกับพระพุทธรูป ที่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ซึ่ง หมายถึงปางทรมานพญามหาชมพู.
สวดพระมหาจักรพรรดิ์เรียบร้อย ขอพรจากท่านให้สำเร็จ จะไปวัดราชโอรสที่เราเคยเรียนมาอีกสัก 1 วัดก่อนจะกลับ
ใครตามรอยขอให้รวย ๆ นะครับ
พี่อ้วนสายมู